บทความที่จะได้อ่านนี้ เป็นบทความที่แนะนำเราให้ทราบว่า หากสนใจและต้องการลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น มีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องรู้ ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง และพัฒนาความรู้ของเรา เพื่อความพร้อมสู่การเป็นนักลงทุนคุณภาพ
ผู้ลงทุนโดยเฉพาะผู้ที่เป็นมือใหม่ คงมีคำถามอยู่ในใจว่า เราควรมีความรู้ในเรื่องอะไร รู้มากขนาดไหนจึงจะสามารถลงทุนแล้วประสบความสำเร็จ แต่ถ้าท่านนำคำถามนั้นมาถาม ก
.ล.ต. จะได้รับคำตอบว่าสูตรสำเร็จของเรื่องที่ต้องรู้เพื่อการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่
(1) รู้จักสิ่งที่ลงทุนหรือจะลงทุน
(2)รู้รอบด้านในเรื่องที่มีผลกระทบต่อการลงทุนหรือมีนิสัยใฝ่รู้ และ
(3) รู้จักตัวเอง
ยังไม่มีความรู้เลย จะลงทุนได้ไหม?
คำถามนี้ไม่ได้มาจากท่านคนเดียว เมื่อปลายปี
การพัฒนาความรู้ของผู้ลงทุนให้สามารถลงทุนได้อย่างผู้รู้และดูแลปกป้องตนเองได้อย่างเหมาะสม เป็นภารกิจที่สำคัญประการหนึ่งของ ก.ล.ต. ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ความรู้ผู้ลงทุน (www.sec.or.th/education) เอกสารเผยแพร่ รายการสารคดีสั้นทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงบูธนิทรรศการในงาน Expo การลงทุนต่าง ๆสาระความรู้ที่ก.ล.ต. มุ่งนำเสนอหวังผลให้เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ลงทุน ไม่ได้หวังเพียงแค่ให้มีจำนวนผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นในตลาดทุน แต่ต้องการให้มีผู้ลงทุนคุณภาพ รู้จักเครื่องมือและรู้วิธีที่จะปกป้องประโยชน์ของตนเอง หรือแม้ว่าบางครั้งจะประสบผลขาดทุนก็สามารถเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเหตุนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก
รู้จักตนเอง สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรู้เรื่องอื่น
การรู้จักตนเอง โดยรู้ว่ามีเป้าหมายการลงทุนอย่างไร ต้องการได้ผลตอบแทนในระยะสั้นหรือยาว และที่สำคัญรู้ว่าตนเองสามารถยอมรับความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะไม่ได้ผลตอบแทนกลับคืนมาตามที่คาดไว้ได้มากน้อยแค่ไหน ถือเป็นความรู้พื้นฐานที่จะช่วยให้เราวางแผนการลงทุนหรือเลือกช่องทาง
/สินค้าการลงทุนได้เหมาะสมกับตนเองซึ่ง ก.ล.ต. ก็มีตัวช่วยสำหรับผู้ที่อยากประเมินตนเองว่าเหมาะกับการลงทุนแบบไหน โดยจัดทำแบบสอบถามออนไลน์ไว้ที่ www.sec.or.th/education/วางแผนการลงทุน
และในอนาคตอันใกล้ ถ้าอยากเข้าไปลงทุนในกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) และตัวแทนขายหน่วยลงทุนจะมีแบบสอบถามให้ทำเพื่อสำรวจและประเมินระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าผู้ลงทุนท่านนั้นเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมประเภทใด เพื่อที่จะให้คำแนะนำได้ถูกต้อง ผู้ออมและผู้ลงทุนคุณภาพ บันไดสู่ยุทธศาสตร์ชาติ
ก
.ล.ต. ได้กำหนดให้แผนกลยุทธ์ปี 2554 ให้น้ำหนักกับภารกิจการให้ความรู้เรื่องการลงทุนในตลาดทุน รวมทั้งจะเน้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ตัวแทนขายสินค้าในตลาดทุน ทำบทบาทการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้ลงทุนและลูกค้าของตนมากขึ้น และ
ก.ล.ต. จะร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผลักดันให้การให้ความรู้เรื่องการออมและการลงทุน (financialliteracy) เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนในวงกว้างและมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบซึ่งจะเป็นบันไดสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำของรายได้ประชากรในประเทศต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น